เที่ยวกระบี่ ทะเลสวย น้ำใส ผู้คนจิตใจดี



Spread the love

กระบี่

เที่ยวกระบี่

เรามาทำความรู้จักจังหวัดกระบี่ กันก่อน

กระปี่เป็นจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันทางภาคใต้ของไทย ระยะทางห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 820 ก.ม. มีพื้นที่ 4,708 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูน มีที่ราบแคบๆ ตามเชิงเขาและแถบชายฝั่งทะเล ด้วยลักษณะทางธรณีวิทยาที่เป็นภูเขาหินปูน ก่อให้เกิดมีถ้ำมากมาย โดยเฉพาะในเขต อำเภออ่าวลึก เช่น ถ้ำผีหัวโต ถ้ำลอด ถ้ำเพชร ถ้ำสะยวนทอง ถ้ำเขาพระ ถ้ำเขาราง บางแห่งเป็นถ้ำที่อยู่ใกล้ทะเล และแวดล้อมไปด้วยป่าชายเลน ที่เขากกาโรส ซึ่งเป็นภู้เขาหินปูน มีรูปประติมากรรมรังสรรค์โดยธรรมชาติ ประกอบด้วยทั้งลมฝนและแสงแดดกัดเซาะหินเป็นเวลาสือบเนื่องยาวนาน จนกลายเป็นรูปใบหน้า มีทั้งดาวงตา จมูก และปาก ที่ผู้คนขนานนามว่า หุบผาปีศาจในอดีต พื้นที่ของกระบี่เป็นป่าอันอุดมสมบูรณ์ มีต้นไม้ขนาดใหญ่เป็นอันมาก ปัจจุบันป่าที่ยังคงสภาพดีอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา ซึ้งมียอดเขาสูงถึง 1,397 เมตร มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติของป่าดิบชื้นและน้ำตกห้วยโต้ ซึ่งมีน้ำตลอดทั้งปี โขดเขาหินปูนริมทะเล เป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพรรณไม้หายากชนิดหนึ่ง นั่นคือ กล้วยไม้รองเท้านารีเหลืองกระบี่ เป็นไม้พุ่มกว้างประมาณ 30-40 เซนติเมตร ใบเป็นมันสีเขียว ออกดอกเดี่ยวขนาด 6-7 เซนติเมตร กลีบสีเหลืองปนเขียวมีจุดประสีน้ำตาลอมม่วงกระเป๋าสีเหลืออมเขียว ออกดอกในช่วงเมษายน-มิถุนายนนับได้เป็นไม้เอกลักษณ์พิเศษของกระบี่ ที่ป่าทุ่งเตียว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขานอจู้จี้ อันเป็นป่าดิบชื้นที่ราบต่ำคือถิ่นอาศัยของนกแต้วแร้วท้องดำ สัตว์ป่าหายากที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์ป่าสงวนของไทย นกที่มีสีสันสวยงามชนิดชอบหากินอยู่ตามพื้น ป่าที่อดมสมบูรณ์ ปริมาณน้ำฝนที่มีอย่างเหลือเฟือ ก่อให้เกิดนแม่น้ำลำธารหลายสาย รวมทั้งแอ่งน้ำที่มีความสวยงาม เช่น ธารโบกขรณี สระมรกต เป็นแอ่งน้ำสีสวยใสซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าลึก นอกจากนี้กระบี่ยังมีสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ คือน้ำผุดปรบมือ ซึ่งเป็นแอ่งน้ำขนาดเล็กในป่า แต่ทว่าพิเศษยิ่งเมื่อมีเสียงปรบมือ จะเกิดแรงดันจากใต้ดินโคลน ผุดขึ้นมากลางน้ำที่ใส ยิ่งปรบมือดังเท่าใด ก็จะยิ่งผุดขึ้นมามากเท่านั้น
อำเภอคลองท่อม มีน้ำตกร้อนสะพานยูง เกิดจากน้ำร้อนใต้ดินที่ผิดขึ้นมาผสมกับน้ำบนผิวดิน ไหลผ่านป่าก่อนตกลงสุ่ลำคลองสะพานยูง อุณหภูมิไม่ร้อนมาก สามารถที่จะลงไปนอนแช่อาบเป็นการกระตุ้นระบบประสาทและเสริมสร้างสุขภาพได้อย่งสุขสบาย
ที่บ้านในสระ อำเภอเมือง มีลำคลองที่น้ำใสสะอาด มองเห็นตัวปลาได้อย่างชัดเจน คือ คลองสระแก้ว อีกแห่งหนึ่งคือท่าปอมคลองสองน้ำ อยู่ในเขตของอำเภอเมืองเช่นเดียวกัน น้ำในลำคลองนี้มีทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มอยู่รวมกัน ส่วนที่เป็นน้ำจืดจะใสมองเห็นเป็นสีมรกต โดยรอบๆ บริเวณจะมีลักษณะเป็นป่าพรุและป่าชายเลน
กระบี่มีแนวชายฝั่งทะเลยาวถึง 160 กิโลเมตร ตั้งแต่อำเภออ่าวลึกผ่านอำเภอเมือง ยาวตลอดไปจรดถึงอำเภอคลองท่อม ซึ้งติดกับ จังหวัดตรัง สภาพธรรมชาติมีทั้งหมดโคลน อันอุดมไปด้วยสัตว์น้ำ และหาดทรายที่สะอาด น้ำทะเลใส เหมาะแก่การพักผ่อน เช่น หาดนพรัตน์ธารา อ่าวนาง ไร่เล
บริเวณชายฝั่งทะเลบ้านแหลมโพธิ์ มีหลักฐานทางธรณีวิทยาที่สำคัญคือ สุสานหอย ซึ่งทั่วโลกมีเพียงสามแห่ง กระบี่มีสุสานหอย กระบี่มีสุสานหอยเป็นหนึ่งในสามของโลก เดิมเชื่อกันว่ามีอายุถึง 75 ล้านปี แต่จากการศึกษาของนักวิชาการกรมทรัพยากรธรณี พบว่ามีอายุอยู่ในช่วง 30-40 ล้านปี สันนิษฐานว่าพื้นที่แถบนี้ เคยเป็นหนองน้ำใหญ่ มีหอยขมน้ำจึดจำนวนมาก เกิดการสะสมทับถมกลายเป็นฟอสซิล มองดูจากระยะไกลคล้ายแผ่นคอนกรีต กระจายเป็นแนวยาวประมาณ 2 กิโลเมตร
สิ่งที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลก ให้มาเยือนกระบี่คือความงามของเกาะต่างๆ ที่มีถึง 130 เกาะ ซึ่งส่วนใหญ่่เป็นเกาะไม่มีคนอยู่ มีเพียง 13 เกาะเท่านั้นที่มีการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนเช่น เกาะพีพี เกาะลันตา เกาะศรีบอยา เกาะไม้ไผ่ เกาะปอดะ เกาะห้อง
นอกจากความงามตามธรรมชาติแล้ว ยังมีปรากฏการณ์มหัศจรรย์อันสัมพันธ์กับดวงจันทร์ที่สงผลต่อการขึ้นลงของน้ำทะเล บริเวณเกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับ มีแนวสันทรายที่เชื่อมต่อกันในช่วงวันขึ้นหรือแรม 12ค่ำถึง 5 ค่ำ เป็นช่วงที่น้ำทะเลขึ้นลงมากกว่าช่วงอื่น เกิดปรากฏการณ์ทะเลแหวก ราวกับเรืองราวในตำนานศักดิ์สิทธิ์

เกาะกระบี่

เกาะต่างๆ ในทะเลกระบี่เป็นเกาะหินปูน ทั้งกระจายและรวมกลุ่มเป็นป่าเกาะ มีแหล่งานดำที่น่าสนใจหลายแหล่งอยู่ในหมู่เกาะพีพี เช่น กองหินหมูสัง เรือจมคิงครุยเซอร์ กองหินหมูสัง มีลักษณะเป็นแนวกองหินใต้น้ำขนาดใหญ่ หลายกองเชื่อมต่อกัน เป็นแหล่งสำหรับการดำน้ำตื้น ที่ความลึกประมาณ ๕-๒๔ เมตร มีปะการังอ่อนสีชมพู ขึ้นปกคลุมดูสวยงาม ชาวต่างชาติเรียกชื่อกองหินนี้ว่า Anemone Reef มีสัตว์ทะเลตัวเล็ก เช่น ม้าน้ำ ปลาไหลมอเรย์ ปลาผีเสื้อ กุ้งตัวตลก ปลาจิ้มฟัน จระเข้ปีศาจ และที่พบบ่อยที่สุดคือ ฉลามเสือดาว จนแหล่งนี้ได้ชื่อว่า Shark Point

เรือ King Cruiser เป็นเรือโดยสารขนาดใหญ่ ความยาว ๘๕ เมตร ประสบอุบัติเหตุชนกับหินโสโครก ระหว่างเกาะพีพีและกองหินหมูสัง เมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๓๙ ผู้โดยสารทั้งหมดปลอดภัย เรือจมอยู่บนพื้น ทรายลึก ๓๒ เมตร ส่วนของเรือสามารถดำดูได้ตั้งแต่ ระดับความลึก ๑๘ เมตร หากดำน้ำลึกเพื่อดู ตามระเบียงห้องต่าง ๆ ของเรือ ควรเป็นนักดำน้ำที่มี ความชำนาญและต้องระมัดระวัง ซากเรือที่จมอยู่หลายปี กลายเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์ทะเล เช่น ปะการัง ทากเปลือย กุ้งพยาบาล และปลาต่าง ๆ เช่น ฝูงปลาแมคคอเรล ด้านบนของซากเรือจะมีปลาหิน ซึ่งมีขนาด ตั้งแต่ ๒ เซนติเมตร จนถึงขนาด ๔๙ เซนติเมตร ปลาสิงโตซึ่งมักจะมาหากินอยู่ในบริเวณนั้น ฯลฯ

ข้อมูลท่องเที่ยว

เกาะต่างๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพีพี และระหว่างเกาะพีพีและภูเก็ต ซื้อบริการจากทัวร์ดำน้ำที่ จ.ภูเก็ตหรือ จ. กระบี่ เคาน์เตอร์บริษัทดำน้ำทั่วไปบนเกาะภูเก็ต และ จ.กระบี่ ดำน้ำลึก ถ่ายภาพใต้น้ำ บนเกาะพีพีมีที่พักและร้านอาหาร ถ้าใช้บริการทัวร์ดำน้ำโดยเฉพาะ จะมีอาหารและ เครื่องดื่มบริการบนเรือ ส่วนอุปกรณ์ดำน้ำ จะแจ้งในเงื่อนไขแต่ละบริษัท เดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนพฤษภาคม ภาพใต้น้ำ มุมมองการถ่ายภาพทัศนียภาพ ของหมู่เกาะกลางทะเล

กระบี่เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก

กระบี่มีประชากรประมาณ 400,000 คน ร้อยละ 80 ของประชากรมีบรรพบุรุษเป็นคนนครศรีธรรมราช ครึ่งหนึ่งนับถือศาสนาอิสลาม ส่วนหนึ่งอพยพมาจากมลายู่ อีกกลุ่มหนึ่งเป็นมุสลิมจากจังหวัดอื่นทั้งนครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และกรุงเทพฯ ที่โยกย้ายถิ่นฐานเข้ามาอาศัยอยู่ในกระบี่ ชมชนมุสลิม มักตั้งหลักแหล่งอยู่ริมทะเล ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวน ควบคู่กับการประมง ในอดีตเริ่มจากการทำนา ทำสวน บริเวณไร่เล เกาะศีบอยาเคยเป็นพื้นที่ทำนามาก่อน ในสวนปลูกพวกหมากและขนุนยามว่างจากการทำสวนก็ออกเรือจับปลาในทะเล ต่อมาจึงได้ริเริ่มมีการปลูกยางและปาล์ม คนมุสลิมที่กระบี่มีวิถีชีวิตเรียบง่าย มีมัสยิดเป็นศูนย์กลางใช้หลักคำสอนของศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และอยู่ร่วมกับคนต่างศาสนาได้อย่างกลมกลืนและมีความสุข ไม่มีความขัดแย้งรุนแรงใดใด เข้าถึงความหมายที่แท้จริงแห่งสันติสุข คนไทยพุทธก็เป็นกลุ่มหลักในกระบี่ ส่วนใหญ่ทำสวยงามและสวนปาล์ม อยู่ในภาคเกษตร กลุ่มคนที่มีบทบาทางธุรกิจ คือ คนไทยเชื้อสายจีนจากเกาะไหหลำ ที่อพยพมาทางทะเลเพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่า แม้คนจีนที่กระบี่จะมีจำนวนไม่มากเหมือนภูเก็ตและพังงา แต่นับได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่บทบาทสูงในทางเศรษฐกิจ และมีส่วนที่สำคัญในการช่วยพัฒนาเมืองกระบี่เป็นอันมาก กลุ่มตระกูลใหญ่ๆ มีลูกหลานที่ช่วยขยายกิจการทั้งสวนปาล์ม สวนยาง โรงงาน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม รีสอร์ต บางส่วนผันตัวเองเข้าไปทำงานการเมือง ทั้งการเมืองท้องถิ่นและระดับชาติ อีกกลุ่มชาติพันธุ์หนึ่ง ซึ่งอาศัยบนผืนแผ่นดินกระบี่มานานคือ ชาวเล กลุ่มอูรักลาโว้ย เป็นเผ่าพันธุ์ที่รักสงบ มีชีวิตอิสระ ตามท้องทะเลแถบอันดามัน ไปจนถึงไทรบุรี มาเลเซีย พวกเขาเดินทางด้วยเรือหากินไปทั่วถิ่นแถบนี้ ไม่จับจองครอบครองผืนแผ่นดินใดๆ แค่ใช้เพียงเป็นที่พักในช่วงฤดูมรสุม อาจปลูกต้นไม้ไว้บ้าง พอเวลาผ่านไปก็แวะเวียนมาเก็บผลผลิต เมือวิถีชีวิตของคนบนโลกเปลี่ยนไป ผืนแผ่นดินเป็นสิ่งมีค่า ผู้คนแย่างกันจับจอง ครอบครองเป็นเจ้าของ พื้นที่ที่เคยอยู่เคยกินของชาวเล กลับถูกยื้อแย่ง ถูกขับไล่ โดยเจ้าของใหม่ วิถีชีวิตของชาวเลจึงเปลี่ยนไป บางส่วนเลิกเร่ร่อน มาสร้างชุมชนอยู่บนฝั่ง เช่นในแถบ บ้านสังกะอู้ บนเกาะลันตา แม้จะปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตและการแต่งกาย แต่กลุ่มอูรักลาโว้ยยังคงรักษาความเชื่อ ประเพณีดั้งเดิมไว้เป็นอย่างดี ที่สำคัญที่สุดคือ ประเพณีลอยเรือ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันขึ้น 13 ค่ำถึงแรม 1 ค่ำ เดือน 6 และเดือน 11 จุดประสงค์เพื่อสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ออกไปจากผู้คนและชุมชนของตน
พวกเขาจะช่วยกันสร้างเรือลำเล็กๆ จากไม้ระกำ ตกแต่งให้สวยงามแล้วแกะสลักไม้เป็นูปคนและสัตว์ลงไปในเรือคืนวันขึ้น 14 ค่ำ ผู้คนต่งมาร่วมฉลอง ร้องรำทำเพลงอย่างสนุกสนาน กระทั้งเช้าวันขึ้น 15 ค่ำ จึงนำเรือออกลอยสู่ทะเลเสมือนนำพาความทุกข์โศก ความไม่ดีงามทั้งหลายให้หายสิ้นไปจากชีวิต นอกจากเกาะลันตาแล้ว ชาวเลยังอาศัยบนเกาะจัม เกาะศรีบอยา เกาะไหงและเกาะพีพี แม้จะมีความแตกต่างทางชาติพันธุ์ ความเชื่อ ประเพณีแต่ผู้คนที่อาศัยในกระบี่ ต่างอยู่ร่วมกันอย่างสงบ สันติ


ผมยังจำได้ถึงวันเดินทางไป เที่ยวกระบี่ ครั้งแรกไม่เคยลืมเพราะเป็นทริปแรกของผมที่มีโอกาสได้เดินทางไปภาคใต้ กระบี่ขึ้นชื่อเรื่องทะเลสวยผู้คนใจดี ผมก็อยากพิสูจน์ว่าทะเลกระบี่จะสวยอย่างที่ว่าจริงหรือเปล่า วันแรกเราเดินทางจากท่ารถภูเก็ตโดยรับบัสประจำทางเพื่อเดินทางไปยังกระบี่ จากภูเก็ตไปกระบี่ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเศษๆ เรานัดเพื่อนที่จะพาเราเที่ยวทะเลกระบี่ที่ท่ารับกระบี่มากระบี่ครั้งนี้เพื่อนที่แสนดีของเราจะพาเราเที่ยวทุกซอกทุกมุมของกระบี่รับรองว่าทริปนี้สนุกแน่ๆ ที่แรกที่เราจะเดินทางไปคือเขาขนาบน้ำ อยู่ในตัวเมืองกระบี่ เที่ยวในตัวเมืองกระบี่กันก่อนๆ ก่อนที่เราจะลุยเที่ยวทะเลกันวันรุ่งขึ้น

สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปเมื่อไปเที่ยวกระบี่
1. เวิ้งทรายอ่าวลึก
2. ผาเขาค้อม
3. ท่าปอม คลองสองน้ำ
4. แหลมสัก
5. พระนอน วัดหนองจิก
6. ท่าเรือขนาาบน้ำ
7. ถ้ำคลัง ถ้ำนางฟ้า ถ้ำค่อม ถ้ำกะโหลก ถ้ำเพชร
8. หาดทรายร้อน
9. จุดชมวิวเขาแก้ว
10. หาดคลองกำ
11. วัดแก้วโกวราราม
12. เกาะผักเบี้ย อ่าวลึก
13. หาดทรายร้อน
14. เขากาโรส
15. หน้าต่างมนุษย์ถ้ำ
16. แหลมไฟไหม้

 

สถานที่น่าสนใจ

อำเภอเมืองกระบี่
ตัวเมืองกระบี่ เป็นเมืองที่มีภูมิทัศน์สวยงาม มีเขานาบน้ำที่เป็นจุดเด่นของเมืองคู่กับป่าชายเลนที่สมบูรณ์ เขียวชอุ่ม ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นสบายตา นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือแคนูเพื่อเป้นการพักผ่อนและออกกำลังกาย หรือในช่วงเย็นแดดร่ม อากาศสบาย ๆ สามารถเดินเล่นรับลมพร้อม ๆ กับนั่งรับประทานอาหารเย็นได้ที่ตลาดโต้รุ่งบริเวณท่าเรือเจ้าฟ้า และบริเวณตลาด ถนนมหาราช ก็มีอาหารพื้นเมืองให้รับประทาน ทั้งขนมจีนน้ำยา น้ำพริก แกงไตปลา ไก่ทอดพื้นเมืองรสชาติกลมกล่อม และสำหรับนักท่องเที่ยวจะเดินทางไปท่องเที่ยวตามหาดหรือเกาะต่าง ๆ เช่น หาดไร่เลย์ อ่าวนาง เกาะลันตา เกาะพีพี เกาะจำ และเกาะสีบอยา สามารถลงเรือโดยสารหือติดต่อเช้าเรือได้ที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ในอำเมือง

เขาขนาบน้ำ เป็นเขาสองลูกสูงประมาณ 100 เมตร ขนาบแม่น้ำกระบี่ด้านหน้าตัวเมือง ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่ สามารถไปเที่ยวชมได้โดยเช่าเรือหางยาวที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาทีนอกจากนั่งเรือชมเขาและป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์แล้วยังสามารถเดินขึ้นไปเที่ยวถ้ำได้ ภายในมีหินงอกหินย้อย และเป็นสถานที่ที่เคยพบโครงกระดึกมนุษย์จำนวนมากอีกด้วยแต่ปัจจุบันไม่หลงเลืออยู่แล้ว สันนิษฐานว่าอาจเป็นโครงกระดูกของกลุ่มคนที่อพยพมาตั้งหลักแหล่งแต่ล้มตายลงเนื่องจากเกิดอุทกภัยอย่างฉับพลัน และสำหรับนักนิยมพายเรือแคนู บริเวณนี้เหมาะที่จะพายเรือแคนูเพราะมีธรรมชาติที่เขียชอุ่มด้วยป่าชายเลนและน้ำนิ่ง สนในสามารถติดต่อบริบัทเรือแคนู ในจังหวัดกระบี่ได้ นอกจากนั้นไม่ห่างจากเขาขนาบน้ำจะมีชุมชนชาวเกาะกลาง ที่บนเกาะจะมีหอพิพิธภัณฑ์และศูย์หัตถกรรมพื้นบ้านแสดงเครื่องใช้ในสมัยโบราณ ของที่ระลึกฝีมือชาวบ้าน อาทิ เรือโทงเทงและจะได้สัมผัสวิถีขีวิตของชาวบ้าน การทอผ้าฝ้าย การเลี้ยงปลาในกระชัง นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือจากท่าเรือเทศบาล บริวเณเขาขนาบน้ำ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ค่าเช่าเรือลำละ 300 บาท

อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองทะเล ตำบลไสไทย ตำบลอ่าวนางและตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองจังหวักระบี่ มีพื้นที่ 242,437 ไร่ เป็นพื้นน้ำประมาณ 200,849 ไร่ มีป่าไม้ 3 ประเภท คือ ป่าดงดิบชื้น พบเห็นได้บริเวณเขาสูงชันบริเวณเขาหางนาค เขาอ่าวนาง ป่าชายเลน จะพบบริเวณคลองแห้ง ใกล้ที่ทำการอุทยานฯ คลองย่านสะบ้า และด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณสุสานห้อย 40 ล้านปี และป่าพรุ ที่พบต้นเสม็ดขึ้นอยู่อย่างสมบูรณ์ มีสัตว์ต่าง ๆ ที่พบในอุทยานฯ ได้แก่ นกโจรสลัด เหยี่ยวแดง นกออก นกนางแอ่นกินรัง หมูป่า ลิง และค่าง บริเวณอุทยานฯ มีบ้านพักของอุทยานฯ ให้บริการ จำนวน 8 หลัง ราคา 800 -4,000 บาท สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพีคือช่วงเดือนพฤศจิกายน – เดือนเมษายน

อุทยานฯ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือ
หาดนพรัตน์ธารา
อยู่ห่างจากตัวเมือง 17 กิโลเมตร ชายหาดมีความยาวเกือบ 3 กิโลเมตร เดิมชาวบ้านเรียกว่า “หาดคลองแห้ง” ทั้งนี้เพราะเมื่อน้ำลง น้ำคลองที่ไหลมาจากภูเขาทางด้านเหนือจะแห่งขอดกลายเป็นหาดทรายยาวเหยียดทอดลงไปในทะเล บรรจบกับเกาะเขาปากคลองบริเวณหาดเป็นทรายละเอียดปะปนด้วยเหลือกหอยเล็ก ๆ ประดับด้วยทิวเล็ก ๆ บริเวณหน้าชายหาดได้ นอกจากนั้นบริเวณชายหาดมีที่พักของอุทยานฯ บริการแก่นักท่องเที่ยว จากที่ทำการบริการนักท่องเที่ยว ชายหาดบริเวณนี้ค่อนข้างเงียบสงบ เป็นสถานที่ที่ชาวกระบี่นิยมไปเที่ยวพักผ่อนในวันสุดสัปดาห์

สุสานหอย อยู่บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 17 กิโลเมตร ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปหาดนพรัตน์ธารา เมื่อถึงบ้านไสไทย จะมีป้ายบอกทางไปสุสานหอย บริเวณที่เป็นสุสานหอยแห่งนี้ เดิมเป็นหนองน้ำจืดขนาดใหญ่ มีหอยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหอยขมมีขนาดราว 2 เซนติเมตร ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงบริเวณพื้นผิวโลก น้ำทะเลไหลเข้ามาท่วมบริเวณหนองน้ำจนหมด ทำให้ธาตุหินปูนในน้ำทะเลหุ้มเปลือกหอยใต้น้ำจนเป็นเนื้อเดียวกัน กลายเป็นแผ่นหินแข็งที่เรียกว่า Shelly Limestone หนาประมาณ 40 เซนติเมตร เมื่อแผ่นดินบริเวณนี้ถูกยกตัวขึ้นสูงซากฟอสซิลเหล่านี้จึงปรากำให้เห็นเป็นลานหินกว้างใหญ่ยื่นลงไปในทะเลจากการคำนวณหาอายุทางธรณีวิทยาพบว่า ฟอสซิลนี้มีอายุราว 40 ล้านปี

อ่าวนาง

อ่าวลึก ความมหัศจรรย์ใต้พิภพ

พายเรือคายัก

อ่าวลึกอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดกระบี่ติดกับจังหวัดพังงา เป็นแหล่งปลูกปาล์มขนาดใหญ่ มีป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านมีการรวมกลุ่มกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสร้างเครือข่ายท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ คือ ธารโบกขรณี เป็นแอ่งน้ำสีมรกตกลางป่า มีด้วยกันหลายแอ่ง ท่ามกลางความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ ที่บ้านบ่อท่อเป็นชุมชนมุสลิม มีการจัดการด้านการท่องเที่ยว โดยชาวบ้านมีเรือบริการนักท่องเที่ยวไปยัง ถ้ำผีหัวโต ซึ่งมีภาพเขียนโบราณรูปคน แต่ส่วนหัวเป็นสัตว์มีเขาเขียนด้วยสีแดงลายขวางตลอดตัว อยู่บนเพดานด้านหน้าถ้ำนอกจากนี้ยังมีภาพคน สัตว์ รูปมือและเท้า กระจัดกระจายตามผนังถ้ำไม่ต่ำกว่า 100 ภาพ สันนิษฐานว่าอายุประมาณ 3,000 ปี ส่วนถ้ำลอดอยู่ไม่ไกลจากถ้ำผีหัวโต ท่ามกลางป่าชายเลนเป็นถ้ำขนาดเล็ก ยาวประมาณ 150 เมตร ภายในเป็นลำคลองเล็ก ๆ ที่สามารถแล่นเรือลอดเข้าไปได้
นักท่องเที่ยวนิยม พายเรือคายัค ชมธรรมชาติของป่าชายเลน เห็นวิถีชีวิตของชาวประมง ตามดินเลนมีทั้งปูและปลาตีนออกหากินอยู่ทั่วบริเวณ ถ้ำที่มีความสวยงามของหินงอกหินย้อยคือถ้ำเพชร ซึ่งอยู่ที่บ้านถ้ำเพชร ตำบลอ่าวลึกเหนือ หินงอกหินย้อยภายในถ้ำส่องแสงแวววาว เมื่อมีแสงไฟไปกระทบคล้ายกับเพชร อีกแห่งหนึ่งคือถ้ำคลัง ที่มีหินงอกหินย้อยรูปร่งแปลกตาที่บ้านควนโอ เป็นจุดลงเรือ ไปยังหุบเขาปีศาจ ต้องผ่านป่าชายเลนไปยังเทือกเขากาโรสซึ่งเป็นเขาหินปูนที่ถูกธรรมชาติกัดกร่อนเกิดเป็นรูปใบหน้า มีทั้งตา จมูกและปาก คล้ายใบหน้าของผีหรือปีศาจ ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า หุบผาปีศาจกาโรส ความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งของอำเภออ่าวลึก คือ น้ำผุดปรบมือ ที่บ้านถ้ำเสือ ซึ่งเป็นแอ่งน้ำขนาดเล็กกลางป่าพรุ มีใบไม้ลงไปกอบทับถมน้ำที่ใสและตื้น หากปรบมือให้เกิดเสียงดังจะเกิดแรงดันจากใต้ดินให้น้ำผุดขึ้น ยิ่งปรบดังมากยิ่งเกิดการผุดหลายจุด

โปรแกรมทัวร์กระบี่ดี ๆ ที่กล้าแนะนำ
Click to rate this post!
[Total: 0 Average: 0]

Leave a Reply

Your email address will not be published.